จากอดีต
ไซรัสมหาราช
คืนวันที่ 5/6 ตุลาคม ปี 539 ก่อนสากลศักราชตามปฏิทินสมัยปัจจุบัน มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับจักรวรรดิบาบิโลน. ในคืนแห่งความหายนะนี้ กรุงบาบิโลนถูกพิชิตโดยกองทัพของชาวมีเดียและชาวเปอร์เซียซึ่งนำโดยกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซีย หรือที่รู้จักกันว่าไซรัสมหาราช. กษัตริย์องค์นี้มียุทธวิธีในการรบที่เหนือชั้นจริง ๆ.
ไซรัสยึดกรุงบาบิโลนได้อย่างไร?
หนังสือผู้นำโลกยุคโบราณ—ไซรัสมหาราช (ภาษาอังกฤษ) กล่าวว่า “เมื่อไซรัสตัดสินใจจะพิชิตบาบิโลน ในเวลานั้นอาณาจักรนี้เจริญรุ่งเรืองถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นนครอันน่าเกรงขามที่สุดในตะวันออกกลาง และอาจจะรุ่งเรืองที่สุดในโลกด้วยซ้ำ.” กรุงบาบิโลนมีแม่น้ำยูเฟรทิสไหลผ่านและคูคลองทุกสายนอกกำแพงเมืองที่สูงตระหง่านเต็มไปด้วยน้ำ เมืองนี้จึงดูเหมือนถูกป้องกันไว้อย่างแน่นหนาจนไม่น่าจะมีใครพิชิตได้.
ทหารของไซรัสได้เปลี่ยนทิศทางของแม่น้ำยูเฟรทิสที่ไหลเข้ากรุงบาบิโลนจึงทำให้ระดับน้ำในเมืองลดลง. แล้วทหารเหล่านั้นก็ลุยข้ามแม่น้ำเข้าประตูเมืองที่ถูกเปิดทิ้งไว้โดยแทบไม่มีการต้านทาน. เฮโรโดทุสและเซโนโฟนนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกรายงานว่าชาวบาบิโลนรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยของเมืองนี้มาก. ดังนั้น ในคืนที่ถูกโจมตี ผู้คนส่วนใหญ่จึงกำลังกินเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่กษัตริย์! (ดูกรอบ “ลายมือบนผนัง.”) ยิ่งกว่านั้น ชัยชนะของไซรัสทำให้คำพยากรณ์หลายข้อในคัมภีร์ไบเบิลสำเร็จเป็นจริงอย่างน่าทึ่ง.
คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าว่าไซรัสจะพิชิตบาบิโลน
คำพยากรณ์ที่น่าทึ่ง
คำพยากรณ์ของยะซายาห์น่าสนใจเป็นพิเศษเพราะคำพยากรณ์เหล่านี้บันทึกไว้ล่วงหน้าราว 200 ปี และก่อนที่ไซรัสจะเกิดราว 150 ปี! ขอพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้:
-
บุรุษชื่อไซรัส (โคเรศ) จะพิชิตบาบิโลนและปลดปล่อยชาวยิวให้เป็นอิสระ.—ยะซายา 44:28; 45:1
-
น้ำในแม่น้ำยูเฟรทิสจะถูกทำให้แห้งเพื่อเปิดทางให้กองทัพของไซรัสบุกยึดบาบิโลน.—ยะซายา 44:27
-
ประตูเมืองถูกเปิดทิ้งไว้.—ยะซายา 45:1
-
กองทัพบาบิโลน ‘ไม่อาจสู้ได้.’—ยิระมะยา 51:30; ยะซายา 13:1, 7
การช่วยให้รอดอย่างน่าอัศจรรย์
ก่อนหน้านี้ ในปี 607 ก่อน ส.ศ. กองทัพของบาบิโลนได้บุกทำลายกรุงเยรูซาเลมจนราบคาบและจับผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ไปเป็นเชลย. ชาวยิวจะตกเป็นเชลยนานแค่ไหน? พระเจ้าตรัสว่า “เมื่อเจ็ดสิบปี นั้นครบแล้ว, เราจะลงโทษแก่กษัตริย์เมืองบาบูโลน, แลจะลงโทษแก่เมืองนั้น . . . แลเราจะกระทำแผ่นดินแลประเทศนั้นเป็นร้างต่อไปเป็นนิตย์.”—ยิระมะยา 25:12
ดังที่กล่าวไปแล้ว ไซรัสได้ยึดกรุงบาบิโลนในปี 539 ก่อน ส.ศ. ไม่นานหลังจากนั้น เขาได้ปลดปล่อยเชลยชาวยิวให้เริ่มกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของตนในปี 537 ก่อน ส.ศ. ซึ่งครบ 70 ปีพอดีหลังจากตกเป็นเชลย. (เอษรา 1:1-4) ส่วนกรุงบาบิโลน ในที่สุดก็ถูกปล่อยทิ้ง “ร้าง.” เรื่องนี้เป็นหลักฐานอีกอย่างหนึ่งที่ยืนยันว่าคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลถูกต้องแม่นยำ.
ทำไมคุณควรสนใจเรื่องนี้?
ขอพิจารณาประเด็นต่อไปนี้: คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าว่า (1) ชาวยิวจะตกเป็นเชลยนาน 70 ปี (2) ไซรัสจะพิชิตบาบิโลนและ จะใช้ยุทธวิธีในการรบที่เหนือชั้น และ (3) บาบิโลนจะร้างเปล่าอย่างสิ้นเชิง. มนุษย์ธรรมดาย่อมไม่สามารถรู้รายละเอียดเหล่านี้ล่วงหน้าได้! ข้อสรุปที่มีเหตุผลมากกว่าก็คือ “คำพยากรณ์ไม่เคยมีขึ้นตามใจมนุษย์ แต่มนุษย์พูดตามที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้พูด.” (2 เปโตร 1:21) เห็นได้ชัดว่า คัมภีร์ไบเบิลเป็นหนังสือที่เราควรสนใจศึกษาอย่างจริงจัง.
^ วรรค 36 ทั้งสามคำนี้หมายถึงมาตราชั่งน้ำหนักเงินตรา. สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูบท 7 ของหนังสือจงเอาใจใส่คำพยากรณ์ของดานิเอล! จัดพิมพ์โดยพยานพระยะโฮวา.