ข้ามไปยังเนื้อหา

พยานพระยะโฮวามองวิทยาศาสตร์อย่างไร?

พยานพระยะโฮวามองวิทยาศาสตร์อย่างไร?

 พวก​เรา​นับถือ​ความ​สำเร็จ​ทาง​วิทยาศาสตร์​และ​เชื่อ​ใน​การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์​ที่​มี​หลักฐาน​สนับสนุน

 พจนานุกรม​เล่ม​หนึ่ง​บอก​ว่า “วิทยาศาสตร์​คือ​ความ​รู้​ที่​ได้​โดย​การ​สังเกต​และ​ค้นคว้า​จาก​ปรากฏการณ์​ธรรมชาติ​แล้ว​จัด​เข้า​เป็น​ระเบียบ” (ราชบัณฑิตยสถาน 2542) ถึง​แม้​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ใช่​คู่มือ​ทาง​วิทยาศาสตร์ แต่​ก็​สนับสนุน​ผู้​คน​ให้​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​ธรรมชาติ​และ​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​ค้น​พบ​ทาง​วิทยาศาสตร์ ลอง​มา​พิจารณา​บาง​ตัว​อย่าง​ด้วย​กัน

  •   ดาราศาสตร์: “เงย​หน้า​มอง​ขึ้น​ไป​บน​ท้องฟ้า​และ​ดูซิ​ว่า ใคร​เป็น​ผู้​สร้าง​สิ่ง​เหล่า​นั้น? พระเจ้า​เป็น​ผู้​เรียก​ดวง​ดาว​เหล่า​นั้น​ออก​มา​ที​ละ​ดวง​ตาม​จำนวน​ของ​มัน​เหมือน​กับ​เรียก​ทหาร​ใน​กองทัพ พระองค์​เรียก​ชื่อ​ดวง​ดาว​เหล่า​นั้น​ได้​ทั้ง​หมด”—อิสยาห์ 40:26

  •   ชีววิทยา: โซโลมอน “พูด​ถึง​ต้น​ไม้ ตั้ง​แต่​ต้น​สน​ซีดาร์​ใน​เลบานอน​ไป​จน​ถึง​ต้น​หุสบ​ที่​ขึ้น​บน​กำแพง เขา​พูด​ถึง​สัตว์​สี่​เท้า นก สัตว์​เลื้อยคลาน แมลง และ​ปลา”—1 พงศ์กษัตริย์ 4:33

  •   ยา​รักษา​โรค: “ใจ​ชื่น​บาน​เป็น​ยา​วิเศษ แต่​ใจ​ชอก​ช้ำ​ทำ​ให้​หมด​เรี่ยว​แรง”—สุภาษิต 17:22

  •   อุตุนิยมวิทยา: “เจ้า​เคย​เข้า​ไป​ใน​คลัง​หิมะ หรือ​เคย​เห็น​คลัง​ลูกเห็บ ... หรือ? ลม​ตะวัน​ออก​ที่​พัด​บน​โลก​มา​จาก​ไหน?”—โยบ 38:22-24

 สิ่ง​พิมพ์​ของ​เรา​ให้​ความ​นับถือ​วิทยาศาสตร์ โดย​นำ​เสนอ​บทความ​เกี่ยว​กับ​ธรรมชาติ​และ​ความ​สำเร็จ​ทาง​วิทยาศาสตร์ พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เป็น​พ่อ​แม่​ก็​สนับสนุน​ลูก ๆ ให้​มี​ความ​รู้​ทาง​ด้าน​นี้ เพื่อ​ลูก ๆ จะ​ได้​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​อยู่​รอบ​ตัว​มาก​ขึ้น และ​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​คน​ที่​ทำ​งาน​ทาง​ด้าน​วิทยาศาสตร์ เช่น ด้าน​ชีวเคมี คณิตศาสตร์ และ​ฟิสิกส์

ข้อ​จำกัด​ของ​วิทยาศาสตร์

 พวก​เรา​ไม่​คิด​ว่า​วิทยาศาสตร์​จะ​สามารถ​ตอบ​คำ​ถาม​ทุก​อย่าง​ของ​มนุษย์​ได้ a อย่าง​เช่น นัก​ธรณี​วิทยา​วิเคราะห์​ได้​ว่า​โลก​มี​ส่วน​ประกอบ​อะไร​บ้าง และ​นัก​ชีววิทยา​ก็​ศึกษา​ว่า​ร่าง​กาย​มนุษย์​ทำ​งาน​อย่าง​ไร แต่​คิด​ดู​สิ ทำไม​โลก​ถึง​เหมาะ​สำหรับ​การ​อยู่​อาศัย​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ล่ะ? และ​ทำไม​อวัยวะ​ต่าง ๆ ของ​ร่าง​กาย​ถึง​ทำ​งาน​ประสาน​กัน​เป็น​อย่าง​ดี?

 เรา​ได้​ข้อ​สรุป​ว่า​มี​เพียง​คัมภีร์​ไบเบิล​เท่า​นั้น​ที่​ให้​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้ (สดุดี 139:13-16; อิสยาห์ 45:18) ดัง​นั้น​เรา​จึง​เชื่อ​ว่า​การ​ศึกษา​ที่​ดี​จะ​ต้อง​เป็น​การ​เรียน​รู้​จาก​ทั้ง​สอง​ด้าน​คือ วิทยาศาสตร์​และ​คัมภีร์​ไบเบิล

 บาง​ครั้ง​วิทยาศาสตร์​อาจ​จะ​ดู​เหมือน​ขัด​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล แต่​บาง​อย่าง​ที่​ดู​เหมือน​เป็น​ความ​ขัด​แย้ง​เกิด​จาก​ความ​เข้าใจ​ผิด​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน เช่น คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​ได้​สอน​ว่า​โลก​ถูก​สร้าง​ภาย​ใน 6 วัน​โดย​ที่​แต่​ละ​วัน​มี 24 ชั่วโมง—ปฐมกาล 1:1; 2:4

 บาง​ทฤษฎี​ซึ่ง​ถูก​มอง​ว่า​เป็น​ความ​จริง​ทาง​วิทยาศาสตร์​นั้น​ไม่​มี​หลักฐาน​เพียง​พอ​และ​นัก​วิทยาศาสตร์​บาง​คน​ซึ่ง​เป็น​ที่​ยอม​รับ​ก็​ไม่​เห็น​ด้วย อย่าง​เช่น เนื่อง​จาก​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​ธรรมชาติ​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึง​การ​ออก​แบบ​ที่​ยอด​เยี่ยม พวก​เรา​จึง​มี​ความ​เห็น​เหมือน​กับ​หลาย​คน​ที่​เป็น​นัก​ชีววิทยา นัก​เคมี และ​คน​อื่น ๆ ที่​สรุป​ว่า สิ่ง​มี​ชีวิต​ไม่​ได้​วิวัฒนาการ​มา​จาก​กระบวนการ​กลาย​พันธุ์​ที่​เกิด​ขึ้น​เอง​โดย​บังเอิญ​หรือ​จาก​การ​คัดเลือก​โดย​ธรรมชาติ

a แอร์วิน ชเรอดิงเงอร์ นัก​ฟิสิกส์​ชาว​ออสเตรีย​และ​เจ้าของ​รางวัล​โนเบล​เขียน​ไว้​ว่า วิทยาศาสตร์ “ไม่​ได้​บอก​เรื่อง​สำคัญ​ให้​เรา​รู้ ซึ่ง​เป็น​เรื่อง​ที่​มี​ความ​สำคัญ​กับ​เรา​มาก” และ​อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์​บอก​ว่า “เรา​ได้​เรียน​รู้​ผ่าน​ประสบการณ์​ที่​เจ็บ​ปวด​ว่า​การ​คิด​อย่าง​มี​เหตุ​ผล​ไม่​เพียง​พอ​ที่​จะ​แก้​ปัญหา​ชีวิต​ได้”