การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล—โคลอมเบีย
คนที่เป็นผู้ประกาศยอมรับว่าองค์การทางศาสนาของพยานพระยะโฮวาทั่วโลก (“พยานพระยะโฮวา”) ซึ่งรวมถึงคริสตจักรแห่งพยานพระยะโฮวาในโคลอมเบีย ประชาคมท้องถิ่นแห่งพยานพระยะโฮวา สำนักงานสาขาท้องถิ่น และองค์กรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพยานพระยะโฮวา จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ด้านศาสนา ผู้ประกาศแต่ละคนให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนต่อประชาคมด้วยความสมัครใจดังปรากฏในหนังสือรวบรวมเป็นองค์การเพื่อทำตามความประสงค์ของพระยะโฮวา เพื่อทำกิจกรรมด้านศาสนาซึ่งเกี่ยวข้องกับการนมัสการและรับกำลังใจจากคำสอนของพระเจ้า—1 เปโตร 5:2
ข้อมูลส่วนตัวรวมถึง ชื่อ วันเดือนปีเกิด เพศ วันที่รับบัพติศมา เบอร์ติดต่อ ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเชื่อ รายงานการประกาศ หน้าที่หรือรูปแบบการรับใช้ และข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้ประกาศให้ขณะมีส่วนร่วมในกิจกรรมอื่น ๆ ด้านศาสนากับองค์กรพยานพระยะโฮวา ข้อมูลนี้จะเผยให้เห็นความเชื่อทางศาสนาของผู้ประกาศและอาจมีข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ที่ละเอียดอ่อน เช่น สุขภาพ เพศ หรือเรื่องเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอาจหมายถึงการเก็บรวบรวม บันทึก จัดระเบียบ และเก็บรักษาข้อมูล รวมถึงการดำเนินการคล้าย ๆ กันที่ทำกับข้อมูลดังกล่าว
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลในประเทศนี้คือดังนี้
The Law on the Protection of Personal Data (Law 1581 of 2012) และกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลดังกล่าว พยานพระยะโฮวาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการยินยอมจากผู้ประกาศเพื่อจุดประสงค์ทางศาสนา ดังต่อไปนี้:
การบริหารจัดการและดำเนินงานทางศาสนาของพยานพระยะโฮวา
การเข้าร่วมการประชุมกับประชาคมท้องถิ่นแห่งพยานพระยะโฮวาและการอาสาสมัครทำงานในโครงการใดโครงการหนึ่ง
การสมัครใจเข้าร่วมการประชุม ประชุมใหญ่ หรือการประชุมใหญ่ที่มีการบันทึกและเผยแพร่คำสอนของพระเจ้าทางสื่อต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของพยานพระยะโฮวาทั่วโลก
การทำส่วนที่ได้รับมอบหมายใด ๆ ในประชาคม ซึ่งรวมถึงการติดชื่อและส่วนมอบหมายไว้บนกระดานคำประกาศที่หอประชุมของพยานพระยะโฮวา
การเก็บรักษาบัตรผู้ประกาศ
การบำรุงเลี้ยงและการดูแลโดยคณะผู้ดูแลของพยานพระยะโฮวา (กิจการ 20:28; ยากอบ 5:14, 15)
การบันทึกข้อมูลเพื่อการติดต่อด่วนในกรณีฉุกเฉิน
ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวมาข้างต้นหรือเมื่อต้องใช้ตามที่กฎหมายเรียกร้อง หากผู้ประกาศคนใดไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นหรือคัดค้านการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของตน องค์กรพยานพระยะโฮวาอาจไม่สามารถประเมินความเหมาะสมของเขาที่จะทำหน้าที่ในประชาคมหรือมีส่วนในกิจกรรมอื่น ๆ ด้านศาสนา
พยานพระยะโฮวาทำงานอยู่ทั่วโลก ดังนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ประกาศอาจถูกส่งต่อ ถูกย้าย หรือเก็บไว้นอกประเทศที่เขาอาศัย ซึ่งอาจเป็นประเทศที่มีกฎหมายปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในระดับที่ต่างออกไปและไม่เท่ากับระดับการปกป้องข้อมูลในประเทศต้นทาง พยานพระยะโฮวาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับรองว่าข้อมูลใด ๆ ที่มีการส่งต่อจะได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ ซึ่งนี่อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ข้อตกลงบางอย่างเพื่อส่งต่อข้อมูล ผู้ที่ได้รับข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งขององค์การทางศาสนาของพยานพระยะโฮวาทั่วโลกและจะใช้ข้อมูลนั้นสอดคล้องกับนโยบายทั่วโลกเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพยานพระยะโฮวาเท่านั้น
ผู้ประกาศมีสิทธิ์เข้าถึง ขอให้ลบ จำกัด หรือห้ามไม่ให้ดำเนินการกับข้อมูล หรือขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องซึ่งองค์กรพยานพระยะโฮวาเก็บรักษาอยู่ นอกจากนั้น ผู้ประกาศมีสิทธิ์ที่จะขอหลักฐานยืนยันสำหรับการอนุมัติและมีสิทธิ์เลือกว่าจะให้หรือไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน ถ้าผู้ประกาศยินยอมให้มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อกิจกรรมอื่น ๆ พวกเขาสามารถเพิกถอนการยินยอมนั้นเมื่อไรก็ได้สำหรับกิจกรรมบางอย่างในอนาคต ถ้าผู้ประกาศคัดค้านหรือเพิกถอนการยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตน หรือขอให้มีการลบหรือจำกัดการดำเนินการกับข้อมูลเหล่านั้น พยานพระยะโฮวาอาจยังใช้ข้อมูลส่วนตัวบางอย่างของผู้ประกาศต่อไปเพื่อจุดประสงค์ทางศาสนาหรือด้วยเหตุผลอื่นที่ชอบด้วยกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายคุ้มครองข้อมูล ผู้ประกาศทราบว่าเขามีสิทธิ์ที่จะร้องเรียนต่อหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของโคลอมเบีย (Superintendency of Industry and Commerce in Colombia)
พยานพระยะโฮวาใช้ขั้นตอนและการปกป้องทางเทคนิคซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ประกาศเข้าใจดีว่าจะมีเจ้าหน้าที่จำนวนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเขาเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
หากมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล สามารถส่งไปที่อีเมลต่อไปนี้:
DataProtectionOfficer.CO@jw.org
ผู้ประกาศเข้าใจว่าจะติดต่อผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ในประเทศที่ตนเองอาศัยอยู่หรือตัวแทนในประเทศต่าง ๆ ได้อย่างไร ข้อมูลเหล่านี้จะพบได้ในหน้ารายชื่อผู้ติดต่อแผนกปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์ jw.org
เพื่อจะส่งคำร้อง ผู้ประกาศต้องสแกนเอกสารคำร้องที่รับรองโดยทนายความและส่งมาพร้อมกับอีเมลที่ต้องการให้ตอบกลับ หากคำร้องนั้นไม่มีข้อมูลที่จำเป็นอย่างครบถ้วน จะมีการตอบกลับถึงบุคคลนั้นภายใน 5 วันทำการเพื่อขอให้กรอกคำร้องให้ครบถ้วนภายในเวลา 2 เดือน ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันเข้าใจว่าเขาได้เพิกถอนคำร้องนั้น เมื่อมีการกรอกคำร้องอย่างเสร็จสมบูรณ์และได้รับการยืนยันแล้ว คำร้องที่ส่งมาเพื่อสอบถามจะได้รับการตอบกลับภายใน 10 วันทำการ ส่วนคำร้องที่เป็นการร้องเรียนจะตอบกลับภายใน 15 วันทำการ ทั้งสองกรณีมีระยะเวลาดำเนินการที่นานขึ้นตามกฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบัน
บางครั้งพยานพระยะโฮวาอาจเปลี่ยนวิธีจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากการปรับเปลี่ยนในด้านกิจกรรมทางศาสนา กฎหมายหรือเทคโนโลยี หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบางอย่างในเพจการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล จะมีการแจ้งให้ทราบในเพจนี้เพื่อผู้ประกาศทุกคนจะรู้ว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลอะไรและใช้ข้อมูลนั้นอย่างไร กรุณาตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้างในเพจนี้